อานุภาพ “สัมมา อะระหัง”
เรื่อง : พระบริบูรณ์ ธมฺมวิชฺโช
ที่สุดแห่งถ้อยคำ
“ถ้าใจใส ใจสบาย ทำอะไรก็สำเร็จ ถ้าใจอยู่ฐานที่ ๗ ทำอะไรก็สำเร็จอย่างสบาย ๆ”
ข้อความประโยคข้างต้น คือ ที่สุดแห่งถ้อยคำ ที่เป็นเคล็ดลับนำความสำเร็จมาสู่มนุษย์ได้ทุกภารกิจ ซึ่งพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ได้เมตตาสอนลูก ๆ เสมอมา และสิ่งที่จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมดวงใจให้ปรับเข้าสู่โหมดของความสบายก็ไม่ได้ซับซ้อนหรือกระทำได้ยากแต่อย่างใด แค่ภาวนา “สัมมา อะระหัง” เรื่อยไป เดี๋ยวความสำเร็จอย่างสบาย ๆ ก็บังเกิดขึ้นแล้ว
ดังตัวอย่างของนักสร้างบารมีผู้ไปทำหน้าที่ชวนบวชและสามารถพิชิตความลังเลหรือกิเลสในใจของชายแมน ๆ ให้ตัดสินใจมาบวชได้อย่างง่ายดาย
ยิ่งภาวนา ยิ่งสำเร็จ
พระประทีป กตทีโป
หลวงพี่เป็นผู้สนับสนุนทีมงานชวนบวช มีหน้าที่ดูแลเรื่องการกิน การอยู่ของผู้ที่ออกไปชวนบวชในแต่ละวัน และสนับสนุนเรื่องรถ บางครั้งก็มีโอกาสออกไปชวนบวชเองบ้าง
ทีมงานของเราทำหน้าที่ชวนบวชได้ใบสมัคร ๑๒๓ ใบ และมีคน มาบวชจริง ๆ ถึง ๙๓ คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงถึง ๗๕ เปอร์เซ็นต์ ของใบสมัคร
หลวงพี่กับทีมงานประชุมกันอยู่เป็นประจำ จึงมีโอกาสทราบว่า ทีมที่เขาชวนบวชได้ผลดีนั้นเขารักษาใจ ไม่เกี่ยวกับการพูดเก่งหรือมีวาทศิลป์อะไรต่าง ๆ เลย แต่ละคนมีแต่หัวใจและยึดหลักที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่า “ถ้าใจใส ใจสบาย ทำอะไรก็สำเร็จ ถ้าใจอยู่ฐานที่ ๗ ทำอะไรก็สำเร็จอย่างสบาย ๆ”
เพราะฉะนั้น ก่อนออกไปทำหน้าที่ แต่ละคนก็จะนั่งสมาธิกันตั้งแต่ตอนเช้า ๘-๙ โมง นั่งทุกวัน และระหว่างที่นั่งรถออกไปชวนบวช เขาก็จะภาวนา “สัมมา อะระหัง” ภาวนาไปเรื่อย ๆ เพลิน ๆ เวลาคนที่มี หน้าที่ลงไปคุยชวนคนบวช คนที่ไม่ได้ลงไปคุยก็ภาวนา “สัมมา อะระหัง” รักษาใจเป็นหลัก คนทำหน้าที่ก็ภาวนาไปด้วย ปรากฏว่า ทีมไหนขยันภาวนา ทีมนั้นได้คนบวชมากที่สุด ทีมงานของหลวงพี่ใช้เวลาก่อนบวชแค่เดือนเดียวสามารถชวนคนบวชได้ถึง ๙๓ คน
“สัมมา อะระหัง” ชวนบวชไม่ยาก
คุณทองล้วน พงศ์ศิริวิวัฒน์
ทุกครั้งที่ลงพื้นที่จะภาวนา “สัมมา อะระหัง” ทั้งทีมค่ะ “สัมมา อะระหัง” ตลอดเวลา ตอนแรกคิดว่าการที่เราจะไปชวนใครสักคนมาบวชคงเป็น เรื่องยาก แต่พอถึงเวลาจริง ๆ แล้วไม่ยากเลย หากเรา “สัมมา อะระหัง” ตรึกเชื่อมสายบุญกับครูบาอาจารย์ตลอดเวลา ทำใจให้ใส ๆ และตั้งใจ ทำหน้าที่ ก็จะสำเร็จได้ไม่ยาก
การที่เราจะชวนใครบวช สิ่งแรกที่จะพูดกับเขาก็คือ บวชไหมคะ? โครงการนี้บวชฟรีนะคะ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น บวชไหม? เราพูด แค่นี้จริง ๆ ไม่ได้มีกลยุทธ์อะไรมากมายเลย เราถามแค่ว่าบวชไหมคะ? น้องบวชไหมคะ? ลุงบวชไหมคะ? คนไหนที่อยากบวชเขาจะสนใจ แล้วก็หันมามองเรา พอเราเห็นว่าเขาสนใจ เราก็เข้าไปคุยและถามว่ามีบัตรประชาชนไหม? ถ้าเขาบอกว่ามี ก็ถามว่าเขียนใบสมัครเลยได้ไหม?
กลยุทธ์การชวนบวชเราคิดว่าง่ายมาก คือ เราตรึกระลึกนึกถึง ครูบาอาจารย์ตลอดเวลาด้วยการ “สัมมา อะระหัง” และใช้เครื่องนับดิจิทัล “สัมมา อะระหัง” ทีหนึ่งก็กด ๑ ครั้ง ทั้ง ๓ ท่านในทีมงานเราก็ทำ อย่างนี้ตลอดเวลา วันหนึ่งทำได้ประมาณ ๕,๐๐๐-๖,๐๐๐ ครั้ง ปลื้มนะ ใจเราจดจ่ออยู่กับครูบาอาจารย์ และตรึก “สัมมา อะระหัง” ตลอดเวลา ทำแบบนี้แล้วการชวนบวชของเราง่ายมากเลยค่ะ
“สัมมา อะระหัง” จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
แม่ชีบัวผัด กันทวิเดช
เวลาทำหน้าที่ก็ภาวนา “สัมมา อะระหัง” ตั้งแต่นั่งรถจนไปถึง จุดหมายปลายทาง
พอไปถึงก็เดินลงตามหมู่บ้าน แล้วก็ “สัมมา อะระหัง” ไปเรื่อย ๆ ถ้าเจอผู้ชายก็ชวนเลย ถ้ายังไม่เจอก็ “สัมมา อะระหัง” ไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดเลย จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ถ้ายังไม่ถึงเป้าหมายก็ยังไม่กลับ แต่ก็ถึงเป้าที่เราตั้งใจไว้ทุกครั้งค่ะ
ช่วงเวลานับจากนี้ของหมู่คณะยังต้องมีภารกิจสำคัญอย่างต่อเนื่องในการชักชวนกุลบุตรหรือชายแมน ๆ ให้เข้ามาบวชศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในโครงการต่าง ๆ รวมทั้งชักชวนเยาวชนมาบวชเณรให้ครบล้านรูปตามโครงการที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวางไว้ ทั้งนี้ เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง และขจัดปัดเป่าความรุ่มร้อนทุกข์ลำเค็ญแก่ผู้คน บนโลกใบนี้ ดังนั้นผู้ทำหน้าที่ชวนบวชทั้งหลายจึงเปรียบเสมือนขุนรบที่ก้าวเข้าสู่สมรภูมิที่ต้องเอาชนะกิเลสในใจของผู้คนให้ได้ ขุนรบที่เก่งกล้าต้องคู่กับกลยุทธ์ที่ดี ดังนั้นเวลาทำหน้าที่ ก็ภาวนา “สัมมา อะระหัง” ไปเถิด นี่แหละคือสุดยอดแห่งกลยุทธ์ที่จะทำให้เป็นผู้ชนะทุกทิศ.. อย่างสบาย ๆ