สร้างคนให้เป็นคนดี
เรื่อง : พราวน้ำเพชร
โครงการอุปสมบทหมู่
ธรรมทายาทนานาชาติ AEC รุ่นที่ ๒
มนุษย์เราต้องการความสุขเสมอ ไม่ว่าร่ำรวยหรือยากจนเพียงใดก็ตาม แต่ในโลกนี้กลับมีน้อยคนนักที่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ไหน...
แจ็ก หม่า มหาเศรษฐีชาวจีนผู้ร่ำรวยเป็นอันดับสิบกว่าของโลก เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่นัก ทุกวันนี้เขายังคงถวิลหาชีวิตที่สุขสงบ ซึ่งเขาเคยบอกว่า ช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่สุดในชีวิตก็คือ ตอนที่เขาเป็นครูจน ๆ มีเงินเดือนแค่ไม่กี่หยวนต่อเดือน
ปัจจุบัน ในฐานะเจ้าของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ ทำให้หม่ามีปัญหาและภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมาย ในปีหนึ่ง ๆ เขาต้องใช้เวลาบนเครื่องบินนานนับพันชั่วโมง เพื่อไปพบปะกับผู้นำทางด้านธุรกิจและการเมืองในประเทศต่าง ๆ ชีวิตจึงมีแต่ความวุ่นวาย หาความสงบสุขไม่ได้ จนกระทั่งมีคำพูดหลุดออกมาจากปากเขาว่า “ผมรู้สึกเสีย ใจที่ก่อตั้งอาลีบาบาขึ้นมา ถ้าชาติหน้ามีจริงผมจะไม่ทำธุรกิจแบบนี้อีกเด็ดขาด ผมอยากเป็นตัวของตัวเอง อยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
ชีวิตของมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลระดับต้น ๆ ของโลกท่านนี้ คงเป็นอุทาหรณ์ได้ดีว่า “ความสุข” คือ ยอดปรารถนาของมนุษย์ทุกคน และ “ความสุข” ไม่ได้อยู่ที่ทรัพย์สินเงินทองตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือคำสรรเสริญเยินยอใด ๆ แต่ความสุขที่แท้จริงนั้นหาได้จากจิตใจของเรานี้เอง
๑
เรื่องราวต่อไปนี้ เป็นเรื่องของบุคคลกลุ่มหนึ่งที่แสวงหาความสุขทางใจด้วยการออกบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ในโครงการอุปสมบทหมู่ธรรมทายาทนานาชาติ AEC เพื่ออาศัยธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเติมความสงบสุขและความดีงามให้แก่ชีวิตของตน
โครงการอุปสมบทหมู่ธรรมทายาทนานาชาติ AEC เป็นโครงการที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เข้าร่วมโครงการ ซึ่งในปีนี้เปิดอบรมเป็นปีที่ ๒ โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน ๔๐ คน จาก ๔ ประเทศ คือ ประเทศ ไทย เมียนมา กัมพูชา และ สปป. ลาว ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์ให้ชาวพุทธในภูมิภาคอาเซียนร่วมมือกันสร้างความสงบสุขและความเข้มแข็งด้านศีลธรรมให้แก่ภูมิภาคด้วยธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒
การอบรมในโครงการนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๔-๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ทีว่ ดั พระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี พิธีตัดปอยผมจัดเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ณ มหารัตนวิหารคด โดยมีญาติพี่น้องของนาคธรรมทายาททั้ง ๔ ประเทศ เข้าร่วมพิธีด้วยความปีติเบิกบาน
ส่วนพิธีบรรพชาอุปสมบทจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ณ อุโบสถวัดพระธรรมกายโดยได้รับความเมตตาจากพระครูมงคลกิจจารักษ์ เจ้าอาวาสวัดมงคลพุการาม เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์
๓
หลังจากบวชแล้ว พระธรรมทายาทได้ฝึกฝนอบรมตนเองอย่างเข้มข้นสมกับที่สละเวลาอันมีค่าเดินทางข้ามพรมแดนมาบวช อาทิ ได้ฝึกฝนเรื่องวินัย เคารพ อดทน และฝึกคุณธรรมพื้นฐานอีกหลายประการ ได้เรียนรู้เรื่องบุญ-บาปและเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ได้เรียนรู้ชีวิตของการเป็นพระแท้ เป็นต้น
ที่สำคัญ พวกท่านมีโอกาสนั่งสมาธิเพื่อทำความสงบของใจถึงวันละ ๔ รอบ คือ เช้า สาย บ่าย ค่ำ
เมื่อประกอบกับการได้อยู่ในเพศภาวะที่ห่างไกลจากความสับสนวุ่นวาย ไกลจากกระแสแห่งความยินดียินร้าย และได้ดำรงตนอยู่ในกรอบของศีล ทำให้พวกท่านมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี และมีโอกาสสัมผัสกับความสุขสงบที่ประณีต ซึ่งต่างจากความสุขทางโลกมากมายนัก
๔
นอกจากความสุขสงบที่แท้จริงของใจซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าและหาได้ยากจากเพศภาวะอื่นแล้วการบวชยังเป็นวิธีสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย ดังตัวอย่างจากโครงการอุปสมบทหมู่ธรรมทายาทนานาชาติ AEC (รุ่นที่ ๑) พบว่ามีพระภิกษุชาวกัมพูชาจำนวน ๓ รูป ยังคงบวชต่อหลังจากจบโครงการแล้ว และหากท่านยังคงบวชต่อไปเรื่อย ๆ ก็เท่ากับว่าท่านจะเป็นอายุและกำลังในการสร้างความมั่นคงแก่พระศาสนาในประเทศของท่านสืบไป นอกจากนี้การบวชยังเป็นโอกาสดีที่จะแผ่ขยายธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกไปสู่ใจของผู้คนได้มากขึ้นอย่างน้อยก็ไปสู่บางคนในทิศ ๖ ของผู้บวช อาทิ ทิศเบื้องหน้า อันได้แก่ บิดา มารดาทิศเบื้องซ้าย ได้แก่ มิตรสหาย เป็นต้น ดังที่พระอาจารย์ประจำโครงการเล่าให้ฟังว่า ธรรมทายาทชาวกัมพูชาท่านหนึ่งสามารถพาพวกพ้องมิตรสหายชาวกัมพูชาเข้าวัดได้ถึงร้อยกว่าคน
เรื่องราวจากโครงการบวชโครงการเดียวยังมีสิ่งดี ๆ ที่น่าชื่นใจได้ถึงขนาดนี้ หากเราพุทธศาสนิกชนทั้งหลายพากันสนับสนุนการบวชยิ่ง ๆ ขึ้นไป ศาสนาพุทธก็จะมั่นคงมากขึ้นการแผ่ขยายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะออกไปสู่วงกว้างยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดสิ่งดี ๆ อีกมากมายมหาศาล และที่สำคัญจะทำให้ชาวโลกได้รู้ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นเกิดจากการปฏิบัติธรรมจนกระทั่งใจสงบ หยุดนิ่งสนิท ดังพุทธพจน์ที่ว่า “นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี”