วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ เป้าหมายการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาของวัดพระธรรมกาย ตอน ๔ รัฐศาสตร์เชิงพุทธ การปกครองระบอบธรรมาธิปไตย

พระธรรมเทศนา

เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัตตชีโว)
เนื่องในวาระวันคร้ายวันเกิดครบ ๖๘ ปี ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

 

 

 

เป้าหมายการเผยแผ่
พระพุทธศาสนาของวัดพระธรรมกาย

ตอน ๔

รัฐศาสตร์เชิงพุทธ การปกครองระบอบธรรมาธิปไตย

           หลังจากที่หลวงพ่อได้ติดตามคุณยายและพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยมานานปี พอสรุปได้ว่า ถ้าจะให้โลกอยู่ร่มเย็น เป็นสุข ชาวโลกต้องรู้ว่า การบริหารปกครองโลกในระบอบที่เป็นธรรมาธิปไตย หรือที่เรียกว่ารัฐศาสตร์เชิงพุทธเป็นอย่างไร ลวงพ่อ ได้เขียนไว้เป็นหนังสือเล่มหนึ่งมีชื่อว่ารัฐศาสตร์เชิงพุทธ

           หนังสือเล่มนี้ขยายความมาจาก พระสูตรในพระไตรปิฎก ชื่อว่ากูฏทันตสูตร เป็นเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อครั้งเป็น
พระโพธิสัตว์ ได้ทรงช่วยกษัตริย์พระองค์หนึ่งแก้ไขบ้านเมืองที่กำลังลุกเป็นไฟให้อยู่เย็นเป็นสุข โดยชี้ให้ดูว่า นในโลกนี้จะเหมือน กันทุกยุคทุกสมัย คือ จะมีอยู่ ๒ ระดับ ได้แก่ ระดับบน กับระดับล่าง

            ระดับบน แบ่งเป็น ๔ กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีอิทธิพลคนละรูปแบบ ได้แก่ 

       ๑. กลุ่มนักการเมือง (ในอดีตคือเจ้าเมืองประเทศราช) ปัจจุบันได้แก่ นายก รัฐมนตรี รัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฯลฯ ซึ่งมีอิทธิพลต่อประเทศชาติบ้านเมืองของทุกยุค

     ๒. กลุ่มข้าราชการประจำชั้นผู้ใหญ่ (ในอดีตคือ เสนาบดี อำมาตย์ราชบริพารผู้ใหญ่) ปัจจุบันนี้ ได้แก่ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ในระดับสูง ระดับอธิบดี ปลัดกระทรวง นายพล ฯลฯ

       ๓. กลุ่มนักธุรกิจใหญ่ (ในอดีตคือคหบดีมหาศาล) กลุ่มนี้จะควบคุมเส้นเลือดใหญ่ของชาติ เหมือนกับท่านอนาถบิณฑิก เศรษฐีในสมัยพุทธกาล ที่คุมเส้นเลือดใหญ่ คือดูแลการเงินของแคว้นโกศล

       ๔. กลุ่มนักวิชาการ (ในอดีตคือพราหมณ์มหาศาล) ปัจจุบันนี้ คือ อธิการบดีครูบาอาจารย์ต่างๆ ในมหาวิทยาลัย พระภิกษุ และสื่อมวลชน

 




 

          ทั้ง ๔ กลุ่มบนนี้ เป็นหลักของทุกยุคทุกสมัย มีพลังอำนาจอยู่ในแง่มุมของตัวเอง ถ้าจะให้ประเทศชาตินั้นๆ เจริญรุ่งเรือง ทั้ง ๔ กลุ่มนี้ต้องจับมือกัน เรื่องนี้ในตำราเรียนไม่มี แต่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกมา ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้ว

            ระดับล่าง หรือกลุ่ม รากหญ้า แบ่งเป็น ๓ กลุ่มใหญ่ ได้แก่

            ๑. กลุ่มเกษตรกร (ผู้ใช้แรงงาน)
            ๒. กลุ่มพ่อค้าแม่ขายระดับล่าง (ชาวบ้านร้านตลาดต่างๆ)
            ๓. กลุ่มข้าราชการชั้นผู้น้อย
            ทั้ง ๓ กลุ่มนี้ ทำให้กลไกของภาครัฐ ขับเคลื่อนไปได้

 






 

         พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่า ทำอย่างไรถึงจะทำให้ระดับบนและระดับล่างประสานกัน ได้อย่างพอเหมาะพอดี โดยทั้งสองระดับนี้ จะต้องนำเอาหลักการในพระพุทธศาสนาเข้าไปใช้ พระสงฆ์และชาววัดต้องทำหน้า ที่นำพระพุทธศาสนาไปช่วย แล้วโลกจึงจะอยู่เย็นเป็นสุข

         เพราะฉะนั้น ใครเข้าวัดแล้วคิดว่าจะปฏิบัติธรรมเพื่อตัวเองเท่านั้น โดยไม่คิดว่าจะชักชวนคนอื่นเข้าวัดด้วย ความคิด นี้ผิดตั้งแต่ต้น จะตัวใครตัวมันไม่ได้ เพราะถ้ามองว่า ประเทศไทยเป็นเรือลำหนึ่ง มีประชากรอยู่บนเรือ ๖๓ ล้านคน ทุกคนบน เรือต้องช่วยกันพายเรือ เราพายแล้วยังไม่พอ ต้องเข็นคนอื่นไปช่วยกันพายด้วย ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งไม่ช่วยกันพาย เรือก็หนัก พายไม่ไหว ด้วยเหตุนี้การเข้าวัดปฏิบัติธรรม อย่าว่าแต่ไม่ชวนเพื่อนบ้านมา แค่ไม่ชวนคนในบ้านมาให้ครบ ก็ถือว่าบกพร่องแล้ว หลวงพ่อขอฝากด้วย

       ส่วนรายละเอียดต่างๆ ขอให้ไปอ่านดูในหนังสือรัฐศาสตร์เชิงพุทธ เพื่อจะได้รู้ว่าการปกครองที่ถูกต้องเป็นอย่างไร แล้วจะทำให้เรา ตั้งหลักได้ง่าย มีอะไรผิดพลาดในบ้านเมือง เดี๋ยวแก้ไขได้.

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

บทความอยู่ในบุญทั้งหมด ฉบับที่ 79 พฤษภาคม ปี2552

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล