ทบทวนบุญ
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
อนุโมทนาพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ธรรมทายาท
พระแท้ ผู้เป็นทายาทแห่งธรรม
"การบวช" นับเป็นกุศโลบายอันยอดเยี่ยมในการปลูกฝังศีลธรรมลงในจิตใจของกุลบุตร
ที่ประพฤติบัติสืบต่อกันมาช้านานจนกลายเป็นประเภณีอันดีงามว่า ชายไทยเมื่ออายุครบเกณฑ์ ควรจะต้องเข้าพิธี บรรพชาอุปสมบทเป็น พระภิกษุ เพื่อศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามรอยบาทของพระบรมศาสดา เพื่อทำพระนิพพาน ให้แจ้ง สั่งสมบุญบารมี และตอบแทนพระคุณของบุพการี
แต่ด้วยสภาพสังคมและเศรษฐกิจในปจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ชายไทยเริ่มห่างเหินออกจาก การบวช เนื่องจาก ต้องใช้เวลาในการศึกษาเล่าเรียน ความรู้ทางโลกและประกอบอาชีพการงาน ส่งผลให้ ผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวขาดหลักธรรม ที่จะนำไปใช้อบรมสั่งสอนบุตรหลานให้เป็นคนดีได้อย่างถูกต้อง ตามพุทธวิธี ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่า แม้เมืองไทย ของเรา เป็น เมืองพุทธ แต่นับวันผู้คนกลับยิ่งเหินห่าง จากพระพุทธศาสนามากขึ้นทุกทีๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสังคมต่างๆ ติดตามมา อีกมากมาย
ด้วยเหตุนี้ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) จึงดำริให้มี โครงการอบรมธรรมทายาท ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ๒๕๑๕ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออบรมศีลธรรมให้แก่นิสิต นักศึกษา เพื่อให้เป็นบัณฑิตที่มีทั้งความรู้คู่คุณธรรม พร้อมที่จะเติบ โตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ สามารถนำพาประเทศชาติและพระพุทธศาสนาไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง เพื่อความผาสุกของคนใน ชาติสืบไป
จนถึงวันนี้ โครงการอบรมธรรมทายาทได้สร้างกุลบุตรไทยให้เป็น "พระแท้" และเป็น "คนดีที่โลกต้องการ" มากมาย หลายหมื่นคน และในช่วง ฤดูร้อนปี ๒๕๕๒ นี้ มีเหล่าธรรมทายาทมาเข้ารับการบรรพชาอุปสมบทในโครงการต่างๆ ดังนี้
ธรรมทายาทรุ่นบูชาธรรม ๖๕ ปี ฯ
การบูชาบุคคลที่ควรบูชามีอานิสงส์ทำให้ผู้บูชาสามารถดำเนินชีวิตไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง เพราะบุคคลผู้ควรบูชาย่อม เป็นต้นบุญต้นแบบในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องดีงาม และเป็นกำลังใจ ส่งเสริมให้เราในฐานะผู้บูชาสามารถสร้างบุญบารมีได้ ยิ่งๆ ขึ้นไป ดังนั้น เนื่องในวาระครบรอบ ๖๕ ปี ของพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ พระพ่อผู้นำการสร้างบารมี ในวัน ที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒ นี้ ลูกๆ เหล่าธรรมทายาทจึงพร้อมใจกันมา บวชเพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาถวายแด่พระเดชพระ คุณ หลวงพ่อผู้เป็นที่เคารพรักยิ่ง ซึ่งเป็นการบูชาอันประเสริฐเหนือสิ่งใดๆ
โครงการอบรมธรรมทายาทรุ่นบูชาธรรม ๖๕ ปี พระราชภาวนาวิสุทธิ์ แบ่งการอบรมออกเป็น ๒ โครงการ คือ โครง การ ๑ สำหรับผู้เคยผ่านการอบรมธรรมทายาท หรือเป็นผู้นำบุญมาก่อน เริ่มอบรมตั้งแต่วันที่ ๑๔ มีนาคม จนถึง ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ และโครงการ ๒ สำหรับสาธุชนทั่วไป อบรมตั้งแต่วันที่ ๗ มีนาคม จนถึง ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ แม้ว่าระยะ เวลาในการอบรมจะสั้น แต่เหล่าธรรมทายาททุกคนต่างก็มีความตั้งใจที่จะฝึกฝนอบรมตนเองให้เป็นพระแท้ ผู้มุ่งทำพระนิพพาน ให้แจ้ง และจะขอตามติดสร้างบารมีไปกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อตราบจนถึงที่สุดแห่งธรรม
ฤกษงามยามดี เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ นาคธรรมทายาทรุ่นบูชาธรรม ๖๕ ปี พระราชภาว นาวิสุทธิ์ ทั้งโครงการ ๑ และ ๒ จำนวน ๒๘๓ คน ได้ร่วมประกอบพิธีเวียนประทักษิณ รอบมหาธรรมกายเจดีย์ โดยมีคณะท่าน เจ้าภาพ ผู้มีบุญเดินอัญเชิญพานผ้าไตรและพานธูปเทียนแพนำหน้าขบวน ต่อด้วยขบวนของบรรดาผู้ปกครอง และญาติมิตร ของเหล่าธรรมทายาท ที่เดินทางมาร่วมงานบวชกันอย่างคับคั่ง และปิดท้ายด้วยขบวนของนาคธรรมทายาท ผู้อยู่ในอาการ สงบสำรวม น่าเลื่อมใส ทุกย่างก้าวของการเดินเวียนประทักษิณ นาคทุกคนต่างประคองรักษาใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย เพื่อเตรียม รองรับบุญใหญ่จากการบวชในครั้งนี้
เมื่อการเวียนประทักษิณเสร็จสิ้นลง เหล่านาคธรรมทายาทประกอบพิธีกล่าวคำวันทาเจดีย์ โดยมีมหาธรรมกายเจดีย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ของ มวลมนุษยชาติอยู่ ณ เบื้องหน้า เพื่อส่งใจนอบน้อม ถึงคุณของพระรัตนตรัย อันเป็นสัญญาณเริ่มต้น ของ การบวชสร้างบารมีในครั้งนี้ จากนั้นนาคธรรมทายาท ได้แปรแถวเข้าสู่พื้นที่ภายในสภาธรรมกายสากล เพื่อประกอบ พิธีกล่าวคำขอขมา และรับมอบผ้าไตร จากบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่หลาย ท่านต่างพากันหลั่งน้ำตา ด้วยความปลื้มปีติ ที่ได้เห็น บุตรหลานของตนกำลังจะได้นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์อันเป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์
เมื่อถึงเวลาสว่าง นาคธรรมทายาทแปรแถวเข้าสู่ศูนย์กลางพิธีเพื่อประกอบพิธีบรรพชา โดยไดรับ ความเมตตาจาก พระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) เปรียญธรรม ๙ ราชบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้น ธรรมทายาททุกรูปก็ได้ทยอยเข้ารับการ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ อุโบสถวัดพระธรรมกาย และเข้ารับการอบรม
ตาม หลักสูตรต่อไปจนกระทั่งสิ้นสุดโครงการ
ธรรมทายาทระดับอุดมศึกษา รุ่นที่ ๓๗
โครงการอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อน ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี ๒๕๑๕ ซึ่งในปีแรกๆ เป็น การอบรมเพื่อปฏิบัติธรรมเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการจัดพิธีบรรพชาอุปสมบท ใช้เวลาในการอบรมประมาณ ๑๕-๓๐ วัน มีนิสิตนักศึกษาเข้ารับการอบรมเฉลี่ยปีละประมาณ ๖๐ คน โดยธรรมทายาททุกคนจะต้องปักกลดอยู่ธุดงค์ท่ามกลางทุ่งนา ฟ้าโล่ง ของศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีต้นไม้ใหญ่ หรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ที่คอยให้ร่มเงาเหมือนดังเช่นทุกวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้น โครงการนี้ก็ยังคงมีนิสิต นักศึกษา ผู้รักการปฏิบัติธรรมทยอยมา เข้ารับการอบรมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นประจำทุกปี
กระทั่งในปี ๒๕๒๒ การอบรมธรรมทายาท ภาคฤดูร้อนได้จัดให้มีพิธีบรรพชาอุปสมบทขึ้นเป็นครั้งแรก โดยได้เพิ่มระยะเวลาการอบรมเป็น ๒ เดือน เดือนแรก ธรรมทายาททุกคนต้องฝึกตนด้วยการอยู่ ธุดงควัตร รักษาศีล ๘ ฝึกนั่งสมาธิและศึกษาธรรมะขั้นพื้นฐาน เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเป็นพระแท้ต่อไป สำหรับผู้ที่ผ่านการอบรมในช่วงเดือน แรก ก็จะได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท ซึ่งหลังจาก บวชแล้วก็จะฝึกฝนตนเองตามพระธรรมวินัย และปฏิบัติธรรมต่ออีกหนึ่งเดือน เพื่อให้ทุกรูปสามารถดำรงตนเป็นเนื้อนาบุญของชาวโลกได้อย่างแท้จริง อันจะมีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่แก่ตนเอง และพ่อแม่ ตลอดจนผู้ที่มีส่วนสนับสนุนการบวชทุกๆ คน
สำหรับปีนี้มีนิสิต นักศึกษา สมัครเข้าร่วมอบรมในโครงการอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อน รุ่นที่ ๓๗ รวมทั้งสิ้น ๒๖๐ คน เริ่มเข้ารับการอบรมมาตั้งแต่วันที่ ๑๑ มีนาคม ที่ผ่านมา และหลังจากที่เหล่าธรรมทายาท ได้ผ่านการฝึกฝนอบรมตนเอง อย่างเข้มข้นมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ ธรรมทายาททุกคนต่างเฝ้ารอคอยนั่นคือพิธีบรรพชา ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกันกับการบรรพชาของโครงการอบรมธรรมทายาท รุ่นครูฟื้นฟูศีลธรรมโลก โครงการอบรมมัชฌิมธรรมทายาท ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น โครงการอบรมมัชฌิมธรรมทายาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และโครงการอบรม ยุวธรรมทายาท รวมจำนวนผู้เข้ารับการบรรพชาในครั้งนี้ทั้งสิ้น ๘๗๘ คน
เริ่มต้นวันสว่างด้วยพิธีเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ โดยมีคณะท่านเจ้าภาพผู้มีบุญ คณะผู้ปกครองและ ญาติมิตรของเหล่าธรรมทายาทหลายพันคนเข้าร่วมริ้วขบวน เมื่อเสร็จสิ้นการเวียนประทักษิณ เหล่านาคธรรมทายาทได้แปร แถวอยู่ ณ เบื้องหน้าของมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อกล่าวคำวันทาเจดีย์ และได้แปรแถวเข้าสู่สภาธรรมกายสากล เพื่อประกอบพิธี ขอ ขมา และรับผ้าไตรจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง นับเป็นบรรยากาศแห่งความตื้นตันใจ ที่เอ่อล้นจนหลั่งรินออกมาเป็น น้ำตาแห่ง ความปลื้มปีติของทั้งนาคธรรมทายาทและของบรรดาผู้ปกครอง ที่มาร่วมอนุโมทนาบุญกับการบวชในครั้งนี้
สำหรับพิธีบรรพชาในครั้งนี้ได้รับความเมตตา จากพระเดชพระคุณพระธรรมกิตติวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม เดินทางมาเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีบรรพชาแล้ว สามเณรธรรมทายาท ทุกรูปได้แปรแถวเข้าพื้นที่เพื่อรับ ถวายบาตรจากบรรดาผู้ปกครองและเหล่าญาติมิตร ปิดท้ายด้วยการสวดให้พรแก่ญาติโยมและสาธุชนที่มาร่วมงาน ซึ่งหลังจากวันนั้น ธรรมทายาทระดับอุดมศึกษา ผู้มีอายุครบเกณฑ์บวชเป็นพระภิกษุก็ได้ทยอยเข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดพระธรรมกาย และเข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติตาม พระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด จนกว่าจะสิ้นสุดโครงการใน วันที่ ๑๗ พฤษภาคม นี้
พิธีบรรพชาอุปสมบทของพระภิกษุและสามเณร ธรรมทายาททุกโครงการ ที่บังเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ของปีนี้ นับเป็น ภาพประวัติศาสตร์การสร้างบารมีอันงดงาม ที่ทุกรูปได้สละความสนุกสนานเพลิดเพลิน ในทางโลก และสละเวลาอันมีค่ามา แสวงหาความรู้ ทางธรรม ด้วยความตั้งใจที่จะฝึกฝนอบรมตนเอง ให้เป็นธรรมทายาทที่แท้จริง สมดังที่พระสัมมา สัมพุทธเจ้า ตรัสไว้ในธรรมทายาทสูตรว่า "ดูก่อนภิกษุ ทั้งหลาย ขอเธอทั้งหลายจงเป็นธรรมทายาทของตถาคตเถิด อย่าเป็นอามิสทายาทเลย.." ทั้งนี้ก็เพราะว่าธรรมทายาทที่แท้จริงเท่านั้น จึงจะมีสิทธิได้ครอบครองโลกุตตรสมบัติ อันยอดเยี่ยมของพระพุทธองค์ นั่นคือการ บรรลุ มรรคผลนิพพาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สูงค่าเหนือกว่าอามิส คือวัตถุสิ่งของใดๆ ที่มีอยู่ในภพทั้งสาม
ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดการอบรม เหล่าธรรมทายาท ส่วนหนึ่งมีความจำเป็นต้องกลับไปใช้ชีวิตในทางโลก เพื่อศึกษาเล่าเรียน และ ประกอบอาชีพการงานต่อไป แต่ทุกคนก็ล้วนตระหนักดีว่า ตนเองคือผู้ที่ได้รับประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ จากการตัดสินใจ มาบวชในครั้งนี้ เพราะทุกคนสามารถที่จะนำหลักธรรมที่เคยได้ศึกษาและประพฤติปฏิบัติ มาประยุกต์ใช้กับความรู้ใน ทางโลกได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งจะยังคุณประโยชน์ให้บังเกิดขึ้นแก่ตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ ได้อย่างสูงสุดสืบต่อไป