วารสารอยู่ในบุญ ธรรมะออนไลน์

พระธรรมเทศนา ปุจฉา-วิสัชนา บทความข่าว ผลการปฏิบัติธรรม ตักบาตรพระ บาลีน่ารู้ กฏแห่งกรรม ฝันในฝัน บวชพระ

บทความอยู่ในบุญ ปิดบ่อนไก่ ใหญ่ที่สุด ในจังหวัดกาฬสินธุ์

image922i00.jpg

             บ่อนไก่ชน "อ้ายแทนฟาร์ม" อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อ ๒ ปีก่อน ด้วยฝีมือของเกษตรกรหนุ่มไฟแรง แห่งหมู่บ้านเหล็ก คุณสุพัฒน์ชัย วานิชสุจิต บัณฑิตหนุ่มจากมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก ผู้เคยได้รับรางวัลในฐานะผู้นำอาชีพก้าวหน้าและพัฒนาชุมชนดีเด่น ประจำปี ๒๕๔๔ จากกระทรวงมหาดไทย และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

image922i01.jpg

             ด้วยจำนวนรายได้ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นกอบเป็นกำ บ่อนไก่ที่เกิดจากการร่วมหุ้นกันของ ชาวบ้าน โดยมีคุณแทนเป็นผู้นำ จึงมีโครงการที่จะขยายต่อไปอีกอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ในที่สุดเหตุการณ์ที่เป็นจุดพลิกผันในชีวิตครั้งสำคัญของคุณแทนก็ได้เกิดขึ้น

             ด้วยความรักที่คุณแทนมีต่อครอบครัว และความรักความห่วงใยของคนในครอบครัว ทุกคนที่มีต่อคุณแทน ประกอบกับการได้มีโอกาสรับทราบความจริงของชีวิต และได้เห็นตัวอย่างดีๆ จากจานดาวธรรม ทำให้วันเวลาที่ทุกคนรอคอยได้มาถึง เมื่อคุณแทนตัดสินใจหักดิบ ปิดบ่อนไก่ชน "อ้ายแทนฟาร์ม" บ่อนไก่ชนที่กำลังพุ่งแรงที่สุดในจังหวัดกาฬสินธุ์ลงอย่างถาวร ถึงแม้จะต้องผจญกับกระแสการคัดค้านของผู้ที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องราวของกฎแห่งกรรมก็ตาม

        คุณแทนได้ส่งเรื่องราวความกล้าหาญในการทำความดีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตผ่านรายการในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน และได้ออกอากาศเป็นต้นบุญต้นแบบไปทั่วโลก..

image922i02.jpg

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

             กระผม กัลฯ สุพัฒน์ชัย วานิชสุจิต เจ้าของบ่อนไก่อ้ายแทนฟาร์ม จ.กาฬสินธุ์ กระผมรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ ในความเมตตาของหลวงพ่อ ที่ได้ชี้ทางสวรรค์ ปิดทางนรกให้แก่ ตัวกระผมและครอบครัว ในตอนก่อนจะปิด บ่อนไก่นั้น กระผมยังลังเลสองจิตสองใจจะปิดดีหรือจะเปิดต่อดี เพราะถ้าปิดก็จะเป็นการสูญเสีย รายได้ก้อนใหญ่ อีกทั้งคงจะโดนชาวบ้านและเซียนไก่ทั้งหลาย ที่มาลงหุ้นด้วยต่อว่าอย่างหนัก แต่อีกด้านหนึ่งสมาชิก ของครอบครัวกระผมทุกคน เริ่มไม่เห็นด้วยและอยากให้ปิด โดยเฉพาะน้องชาย และลูกสาวของกระผม ซึ่งมีอายุเพียง ๕ ขวบ ลูกสาวของกระผมบอกผมว่า "ถ้าพ่อปิดบ่อนไก่พ่อจะรวย บ้านเราจะสวยนะพ่อ" ซึ่งทำให้กระผมอึ้ง และต่อมาทำให้คิดอยากจะปิดบ่อนไก่ แต่ก็ยังไม่กล้า จนกระทั่งได้ทราบข่าวการปิดบ่อนไก่วิหารแดง ซึ่งถือว่าเป็นบ่อนไก่ที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลาง อันทำให้กระผมรู้สึกงงงวยและไม่อยากเชื่อ แต่ก็ทำให้กระผมมีกำลังใจและตัดสินใจปิดบ่อนไก่ในที่สุด

             สิ่งที่กระผมได้รับทันทีหลังจากตัดสินใจปิดบ่อนไก่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมดีใจมากที่สุดคือ รอยยิ้ม ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจของคุณพ่อคุณแม่ โดยเฉพาะคุณพ่อ ซึ่งในวันงานปิดบ่อนไก่นั้น ท่านเดินยิ้มทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันเย็น และจนถึงทุกวันนี้ แม้จะผ่านวันงานมาหลายวันแล้ว ท่านก็ยังดูมีความสุขอยู่ ต่อมาคือความรู้สึกโล่งอก สบายใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก ที่ไม่ต้องทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ และปัญหามากมายที่ไม่รู้จักจบสิ้น แม้ว่าตอนนี้ชาวบ้านและคนที่รู้ข่าวการปิดบ่อนไก่ของกระผม จะไม่เห็นด้วยต่อเรื่องนี้ หลายคนไม่พูดกับผมและต่อว่ากระผม ต่างๆ นานา บางคนก็บ่นว่า ต่อไปจะต้องเดินทาง ไปชนไก่ซึ่งอยู่ไกลกว่าเดิมมาก และบรรยากาศก็ไม่ดีสู้ที่นี่ไม่ได้ รายได้ก็เสียหาย ซึ่งในตอนแรกกระผมก็รู้สึกหวั่นไหวและไม่สบายใจ แต่หลังจาก ได้พูดคุยกับท่าน สจ.บรรเจิด ซึ่งท่านอุตส่าห์เดินทางมาให้กำลังใจจากสระบุรี แม้ว่างานจะรัดตัวเพียงใดก็ตาม ท่านได้บอกกระผมว่า "เชื่อเถอะ หลังจากปิดบ่อนไก่แล้ว จะมีแต่สิ่งดีๆ งานดีๆ เข้ามา" และพูดคุยเรื่องต่างๆ ซึ่งเป็นภาษาคนทำบ่อนไก่ด้วยกัน ทำให้กระผมเข้าใจและไม่ หวั่นไหวต่อการปิดบ่อนไก่ในครั้งนี้

             และหลังจากนี้ กระผมจะพยายามหางาน หรืออาชีพที่ไม่บาป มาให้ชาวบ้านทำแทนการชนไก่ และเลี้ยงไก่ชนขายครับ ซึ่งทั้งหมดนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นในโลกนี้ได้เลย เพราะคงไม่มีใครกล้าคิดกล้าบอกว่านี่เป็นบาป แล้วชวนให้ลดละเลิก ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อ ความจริงในข้อนี้ กระผมจะพยายามขยายให้เพื่อน ๆ เซียนไก่ทั้งหลาย ได้รับทราบ และให้รู้ถึงผลของบาปที่จะตามมาในภายหลัง

             กระผมขอขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูง ในความเมตตาของหลวงพ่อ ที่ได้สั่งสอนให้เห็นโทษภัยของการทำบ่อนไก่ในครั้งนี้ ขอให้หลวงพ่อสมหวังในทุกสิ่งที่หลวงพ่อปรารถนา ขอให้หลวงพ่ออายุยืนยาว อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทยแก่ลูกๆไปตลอดกาลเทอญ

  ขอกราบนมัสการครับ
กัลฯ สุพัฒน์ชัย วานิชสุจิต


             จากการปิดบ่อนไก่ชนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสระบุรี จนมาถึงการปิดบ่อนไก่ชนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาฬสินธุ์ในวันนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงการได้นำเสนอเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตผ่านทางจานดาวธรรม ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน ทุกครอบครัวเพื่อที่จะได้เรียนรู้ถึงเรื่องราวของกฎแห่งกรรม จึงเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันเผยแผ่จานดาวธรรมไปสู่ทุกครัวเรือนให้เร็วที่สุด เพื่อให้ชีวิตของชาวโลก ดำเนินไปบนหนทางที่ถูกต้อง ไม่ไปเกี่ยวข้องกับอบายมุข แล้วเดินทาง ไปสู่ความสุข ด้วยการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา จนกว่าจะเดินทางไปสู่ที่สุดแห่งธรรม

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล