ผลการปฏิบัติธรรม
เรื่อง : ธัมม์ วิชชา
รู้หรือไม่ว่า...
มีพระอยู่กับเราตลอดเวลา
นับเป็นความโชคดีของชีวิตที่เราเกิดมาเป็นชาวพุทธ และได้ประพฤติปฏิบัติตามธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้พระพุทธองค์จะทรงดับขันธปรินิพพานไปแล้วเนิ่นนาน แต่ธรรมของพระองค์ที่เราตั้งใจหมั่นประพฤติปฏิบัติยังคงหล่อเลี้ยงชีวิตของเราให้ประสบแต่ความสุขความเจริญเรื่อยมา และมีความจริงอยู่ประการหนึ่งก็คือว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้ทรงหายไปไหน แท้จริงแล้วพระองค์ทรงอยู่กับเราตลอดเวลา ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ถ้าเราหมั่นประกอบเหตุ คือ นำใจไปหยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายอย่างสม่ำเสมอ เราก็จะมองเห็นพระพุทธองค์ปรากฏ ชัด ใส สว่าง อยู่กลางกาย ซึ่งสามารถยืนยันได้จากประสบการณ์ภายในที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง....
พระวศิน ตโปธโน อายุ ๒๗ ปี
โครงการอุปสมบทหมู่รุ่นบูชาธรรม ๖๙ ปี
พระเทพญาณมหามุนี
“ก่อนมาบวช อาตมาทำงานเป็น Process Engineer คือเป็นวิศวกรประจำโรงงาน ทำงานได้ปีครึ่งก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตชักจะวุ่น ๆ เดี๋ยวคนนั้นเป็นอย่างนี้ เดี๋ยวคนนี้เป็นอย่างนั้น ชอบคุยกันแต่เรื่อง ชาวบ้าน เอาเรื่องชาวบ้านมากลุ้มใจ อาตมารู้สึกว่า ชีวิตมนุษย์นี่วุ่นวาย จริง ๆ ในช่วงที่กำลังตึง ๆ เซ็ง ๆ จึงหยิบหนังสืออานุภาพหลวงปู่ ปกสีแดงมานั่งอ่าน คือโยมแม่ของอาตมาเริ่มมาวัดพระธรรมกายตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และชอบเอาหนังสือของวัดมาฝากให้อ่านเล่นเป็นประจำ พออ่านจบก็คิดว่า จริงหรือนี่? หลวงปู่ท่านทำได้อย่างนี้จริง ๆ หรือ อาตมานึกอยากนั่งสมาธิ อยากทำได้แบบหลวงปู่บ้าง แต่ยังรู้สึกต่อต้านวัดพระธรรมกายนิดหน่อย เพราะคิดว่า ต้องเป็นลัทธิอะไร สักอย่าง ซึ่งโยมแม่ก็พยายามชวนให้ไปวัด แต่อาตมาบ่ายเบี่ยงตลอด จนวันหนึ่งบุญคงได้ช่อง ทำให้เกิดอาการอยากตามโยมแม่ไปวัด แค่เลี้ยวรถเข้ามาในเขตวัดพระธรรมกายเท่านั้น อาตมาก็รู้สึกแปลก ๆ รู้สึกว่าที่นี่ร่มรื่นจัง ชอบจัง มีความสุขจัง พอไปนั่งสมาธิที่ สภาธรรมกายสากล เกิดอาการอยากบวชเข้าอย่างจัง แล้วก็ตัดสินใจมาบวชในโครงการบูชาธรรมฯ
“ตอนแรกที่มาบวชก็กลัว ๆ กลัวตื่นเช้าไม่ไหว กลัวหิวเพราะฉันแค่ ๒ มื้อ แต่พออยู่ไป ๆ กลับมีความสุขขึ้นเรื่อย ๆ อาตมาชอบชีวิตพระ ชอบคุยเรื่องธรรมะ ชอบคุยเรื่องของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พอได้นั่งสมาธิมาก ๆ ทำให้รู้สึกว่า ชีวิตแบบนี้มันใช่เลย ตอนแรก ๆ ที่นั่งสมาธิ อาตมารู้สึกแน่นมาก ตึงมาก อึดอัดมาก แต่พอนั่งไปเรื่อย ๆ เริ่มสบาย ตัวเบาเหมือนลอยอยู่ในอากาศ ทำให้รู้สึกชอบนั่ง วันหนึ่งอาตมานึกถึงภาพวันปลงผม ซึ่งเป็นวันที่ประทับใจที่สุด นึกถึงภาพที่ โยมพ่อโยมแม่ยิ้มและร้องไห้เพราะปลื้ม นึกไปเรื่อย ๆ ใจก็ตื้นตัน แล้วก็เห็นแสงวูบ ๆ วาบ ๆ เข้ามา แต่ไม่ได้สนใจ สักพักก็เห็นดวงแก้ว ขาว ๆ ใส ๆ อยู่ตรงกลางท้อง ดวงเล็กกว่ากำมือนิดหน่อย ค่อย ๆ สว่างขึ้น ชัดขึ้น ดวงแก้วมีผิวเนียนกลม ดูมีมิติ เหมือนเราเอาดวงแก้ว จริง ๆ มาตั้งไว้ในท้อง ซึ่งอาตมาก็นิ่ง ๆ มองเฉย ๆ ไม่เอะใจอะไร ดวงแก้วก็ใสขึ้น สวยกว่าดวงแก้วที่เราเห็นข้างนอกมาก ๆ ตอนนั้นปลื้มจนน้ำตาไหล มาวันหนึ่งในขณะที่กำลังมองดวงแก้วในท้องเพลิน ๆ จู่ ๆ ก็มีองค์พระลอยขึ้นมาจากจุดตรงกลางของดวงแก้ว ตอนนั้นรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่รู้ว่าบรรยากาศรอบตัวเป็นอย่างไร ใจมันอยู่แต่กับองค์พระที่ขึ้นมา ท่านลอยขึ้นมาจนถึงลำคอ เห็นเกตุรูปดอกบัว เห็นใบหน้าของท่าน ดวงตาสวย จมูกเป็นสัน เห็นคอ บ่า ไหล่ ท่านงามมาก น้ำตาอาตมาไหลไม่หยุด มีความสุขมาก และเหมือนท่านจะหมุนให้เราเห็นได้ทุกส่วน ละเอียด ชัด สวยงามอย่างที่สุด
“อาตมารู้สึกว่าพระพุทธเจ้าอยู่กับเรา ท่านยิ่งใหญ่มาก รู้สึกเคารพบูชาท่านอย่างสูงสุดลึกซึ้ง แบบไม่เคยเป็นมาก่อน พอลืมตาขึ้นจีวรเปียกไปหมด เพราะหยุดน้ำตาไหลไม่ได้ มาระยะนี้ เวลาหลับตา ถ้าใจนิ่งเป็นสมาธิแล้ว จะเห็นดวงแก้วใสสว่าง พอมองกลางดวงแก้ว ก็จะเห็นดวงแก้วอีกดวงที่สว่างกว่า สวยกว่า พอผ่านดวงหลาย ๆ ดวงไปสักพัก จะมีองค์พระลอยขยายใหญ่ออกมา มีจุดสว่างที่สว่างเด่นกว่าเดิมดึงความรู้สึกของเราลงไป แล้วก็มีองค์พระลอยขยายใหญ่ออกมาอีก เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา ตอนนี้ไม่ว่าทำอะไรก็ยังเห็นองค์พระได้ตลอด อาตมาอยากให้ทุกคนได้เห็นแบบนี้ มีความสุขแบบนี้ องค์พระภายในให้ความรู้สึกสุขใจมากจริงๆ”
พระพรชัย วรชโย อายุ ๒๗ ปี
โครงการอุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐ รูป ภาคฤดูร้อน ปี พ.ศ. ๒๕๕๕
ศูนย์อบรมวัดสีกัน (พุทธสยาม) เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
“ก่อนมาบวช อาตมามีชีวิตอยู่กับความทุกข์ พ่อไปทาง แม่ไปทาง แม่เอาไปฝากไว้กับหลวงตาที่วัด ซึ่งท่านก็เมตตาเลี้ยงดูและให้บวชเป็นสามเณร อาตมาบวชได้ ๖ พรรษา ก็มีความคิดว่าทางโลกน่าจะ ดีกว่า จึงลาสิกขาออกไปอยู่กับพ่อ แต่ไม่ทันไรพ่อก็เสียชีวิต ตอนนั้นเหมือนชีวิตหมดสิ้นทุกอย่าง เลยไปขออาศัยอยู่กับเพื่อน ก็เลยติดเพื่อน ติดเหล้า ติดบุหรี่ อาตมาใช้ชีวิตอย่างไร้คุณค่า ไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะอยู่ไปเพื่อใคร แต่ใจหนึ่งก็อยากบวชให้พ่อที่เสียไปแล้ว แต่ไม่มีโอกาส ไม่มีเงิน
“วันหนึ่งตอนนั่งอยู่ในวงเหล้าได้ยินเสียงประกาศชวนบวช ได้ยินเขาพูดว่าบวชฟรี อาตมารีบวิ่งไปหาต้นเสียงทันที ไปเจอกับผู้นำบุญ ชื่อโยมพี่หยี ถามพี่เขาว่า “มารับสมัครบวชใช่ไหม ผมขอสมัครบวชนะครับ” พอมาเข้าโครงการ พระอาจารย์ที่ศูนย์อบรมท่านเคร่งมาก โดยเฉพาะเรื่องนั่งสมาธิกับเรื่องห้ามสูบบุหรี่ ซึ่งช่วงแรกอาตมายังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ พระอาจารย์ท่านบอกว่า ถ้าจะบวชต้องเคารพในคำสอนของครูบาอาจารย์ เราต้องตัดขาดจากบุหรี่เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แล้วก็โดนสั่งให้หักดิบ ตอนนั้นแทบแย่ มันทรมานมาก ใจก็คิดอยากออกจากโครงการ แต่อีกใจก็คิดว่าเรามาบวชเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ พ่อก็เสียไปแล้ว แม่ก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน ในขณะที่สู้กับใจตัวเอง ก็ได้รับกำลังใจจากโยมพี่หยีและทีมงาน ในที่สุดก็หักดิบได้ ได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง พอนั่งสมาธิมากขึ้นก็พบกับความสุขภายใน ที่ทำให้รู้คุณค่าของการบวช
“เวลานั่งสมาธิ อาตมาจะปล่อยใจตามเสียงของหลวงพ่อ วางใจนุ่ม ๆ เบา ๆ ไปเรื่อย ๆ สักพักรู้สึกสบายเหมือนอยู่ในห้วงอวกาศ เบามาก แล้วก็มีแสงแว็บเข้ามาจากกลางท้อง เห็นดวงแก้วผุดซ้อน ๆ กันขึ้นมาหลาย ๆ ดวง ดวงแก้วที่อาตมาเห็นใสเหมือนแก้วน้ำ ใหญ่เท่ากับฟองไข่แดงของไก่ สว่างเท่ากับพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน ตอนนั้นใจนิ่งมาก เหมือนเราทิ้งทุกอย่างวางทุกสิ่งจริง ๆ ในหัวไม่คิดเรื่องอะไรเลย พอแตะใจเบา ๆ ไปที่ดวงแก้ว ก็มีองค์พระเกิดขึ้น บางองค์เป็น สีเหลือง บางองค์มีสีเหมือนเพชร สวยงามมาก องค์พระท่านขยายจนคลุมตัว ตอนนั้นอาตมารู้สึกเหมือนเราเป็นองค์พระไปเลย และเหมือนท่านจะอยู่กับเราตลอดเวลา เวลาใจนิ่งอย่างนี้ เห็นองค์พระแบบนี้ อาตมาจะมีความสุขมาก ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อน พอลืมตาก็จะตรึกถึงองค์พระตลอด และไม่ว่าจะสรงน้ำ หรือซักผ้า หรือทำอะไรจะมีความรู้สึกเหมือนถูกดูดอยู่ตลอดเวลา รู้สึกดี รู้สึกมีความสุขมาก
“อาตมาอยากให้ทุกคนตั้งใจนั่งสมาธิ ถ้าเราฝึกปฏิบัติได้ เราจะได้เปลี่ยนชีวิต จากคนดีเป็นคนที่ดียิ่งกว่าดี จากคนเคยผิดพลาดก็จะดีขึ้น เหมือนอย่างอาตมาที่แต่ก่อนเคยไม่ดี พอมาบวชได้ขัดเกลาตัวเอง ได้ฝึกตามคำสอน ได้ปฏิบัติธรรม ก็ทำให้มีวันนี้ กลายเป็นคนมีความคิดความอ่าน มีความเข้าใจในชีวิต พระอาจารย์เคยบอกว่า ความลำบากสร้างคน ความสบายฆ่าคน ถ้าเราคิดว่าการอบรมมันลำบาก ก็แปลว่าชีวิตเรากำลังถูกสร้างให้สว่าง ถ้าพบความสว่างภายในเมื่อไร ก็จะได้พบกับทุกสิ่งที่แสวงหา”
ถ้าเราไม่เกียจคร้านในการปฏิบัติธรรม ไม่ดูเบาการตรึกระลึกนึกถึงศูนย์กลางกายให้ได้ตลอดเวลา โดยมีสติระลึกตรึกกลางดวงใส มีสัมปชัญญะรุดแล่นสู่ภายใน ความรู้สึกของเราจะค่อย ๆ คุ้นเคยและเข้าใกล้ จนกระทั่งกลืนหายเข้าไปในศูนย์กลางกายขององค์พระธรรม-กาย มีลมหายใจเดียวกับพระธรรมกาย ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เหนือสะดือสองนิ้วมือ และองค์พระธรรมกายนั่นเอง คือ กายแห่งการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมกายนั่นเอง คือ องค์ตถาคต ดั่งพุทธพจน์ที่ว่า ธมฺมกาโย อหฺ อิติปิ ตถาคต คือ ธรรมกาย ถ้าเราเข้าถึงพระธรรมกายเราจะทราบชัดด้วยใจของเราว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านอยู่กับเราตลอดเวลา